วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

Torres

                                                                           Torres



ในวันที่ 31 มกราคม ปี พ.ศ. 2554 เฟร์นานโด ตอร์เรส ได้ย้ายจาก ลิเวอร์พูล มา เชลซี ด้วยค่าตัวที่สูงที่สุดในอังกฤษ คือ 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,458 ล้านบาท) ในเกมแรกของตอร์เรสนั้น ได้ลงสนามเจอกับทีมเก่าของเขา ลิเวอร์พูล ที่ สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ผลการแข่งขันนั้น เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 ตอร์เรสโดนเพื่อนร่วมทีมเก่าทำฟาวล์บาดเจ็บ และเขาได้โดนเปลี่ยนตัวออกแล้วส่งผู้เล่นสำรอง ซาโลมอง กาลู ลงมาเล่นแทนในนาทีที่ 66
ประตูแรกของตอร์เรสนั้น เป็นเกมที่ เชลซี ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 ที่ สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยนัดนั้น เชลซีขึ้นนำไปก่อน 1-0 ก่อนที่ตอร์เรสจะถูกเปลี่ยนตัวลงไปแทน ดิดิเยร์ ดร็อกบา และซัดด้วยเท้าซ้าย บอลเข้าไปตุงตาข่าย ทำให้เชลซีขึ้นนำอีกครั้ง 2-0 และเขาได้รับการยกย่องให้เป็น Man of the macth ในเกมนั้น ส่วนประตูที่สองเกิดขึ้น ในเกมที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-3 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตอร์เรสมีโอกาสซัดสองประตูในเกม โดยเขาเลี้ยงบอลหลบผู้รักษาประตูร่วมชาติ ดาบิด เด เคอา ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไป แต่เขายิงพลาดด้วยการยิงด้วยเท้าซ้าย บอลออกเส้นหลังประตูไปอย่างน่าเสียดาย
ประตูที่สามเกิดขึ้นกับตอร์เรสในเกมที่เชลซีเปิดบ้านรับการมาเยือนของสวอนซี โดยตอร์เรสยิงให้เชลซีขึ้นนำก่อนในครึ่งแรก จากนั้นตอร์เรสได้ไปเสียบสกัดผู้เล่นของสวอนซีล้มลงไปริมเส้น ทำให้เขาโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ถือเป็นใบแดงแรกในสีเสื้อเชลซีของเขา หลังจากพ้นโทษใบแดงแล้ว เขาได้มีโอกาสลงเล่นช่วยทีมทำศึก ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยเชลซีอยู่สายอี ร่วมกับทีมเลเวอร์คูเซ่น จากเยอรมนี บาเลนเซีย จากสเปน และเกงค์ จากเบลเยียม ในเกมที่พบกับเกงค์ ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาระเบิดฟอร์มแกร่งโดยยิงสองประตู ช่วยให้ทีมชนะเกงค์ไป 5-0 และภายในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 เชลซีเป็นสโมสรฟุตบอลจากอังกฤษเพียงทีมเดียวที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยถูกจับสลากให้พบกับเบนฟิก้า จากโปรตุเกส ซึ่งเชลซีสามารถเอาชนะด้วยผลประตูรวม 3-1 เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ พบทีมบาร์เซโลนา
หลังจากการทำประตูในนัดที่พบกับเกงค์นั้น ตอร์เรสก็ยิงประตูคู่แข่งไม่ได้อีกเลย ในทุกรายการ ทำให้เขาถูกตัดชื่อออกจากทีมชาติสเปนชุดแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 และอุ่นเครื่องกับทีมชาติเวเนซุเอลา จนครบหนึ่งปีที่เขาย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์สู่สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ถึงแม้เขาจะยิงประตูไม่ได้แต่ก็ช่วยส่งบอลให้เพื่อนยิงประตูได้หลายครั้ง จนในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555 เชลซีที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ อังกฤษ ถูกจับสลากประกบคู่แข่ง ได้เปิดบ้านรับทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังจากลีกแชมป์เปี้ยนชิพ อังฤษ โดยเกมนี้เฟร์นานโด ตอร์เรส ได้รับการไว้วางใจจากโรแบร์โต ดี มัตเตโอ โค้ชชาวอิตาลีชั่วคราวของเชลซี ให้ลงเล่นเป็นตัวจริง โดยในเกมนี้เป็นเชลซีที่สามารถเก็บชัยชนะได้ 5-2 โดยตอร์เรสสามารถยิงได้ 2 ประตู และส่งให้เพื่อนยิงอีก 2 ลูก สามารถหยุดสถิติยิงประตูคู่แข่งไม่ได้ในรอบ 5 เดือน 1,541 นาทีได้ จากนั้นก็สามารถยิงได้อีก 1 ประตูในเกมที่ชนะแอสตันวิลล่า 4-2 หลังจากนั้นเดือนเมษายน เชลซีที่ต้องพบกับบาร์เซโลน่า สามารถเอาชนะบาร์เซโลน่าได้ก่อนที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ 1-0 และบุกไปเสมอบาร์เซโลน่าได้ 2-2 โดยในเกมนั้น ตอร์เรสเป็นผู้ทำประตูปิดท้าย ทำให้เชลซีผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศพบกับบาเยิร์น มิวนิคที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ประเทศเยอรมนี แม้เขาจะไม่สามารถยิงได้ในนัดชิงชนะเลิศ แต่เชลซีก็สามารถคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกได้เป็นสมัยแรกของสโมสรหลังเสมอกับบาเยิร์นมิวนิคในเวลาปกติ 1-1 ก่อนดวลจุดโทษชนะด้วยสกอร์รวม 5-4
การทำแฮตทริกครั้งแรกของตอร์เรสในสีเสื้อเชลซี เกิดขึ้นในเกมที่เชลซีเปิดบ้านถล่มสโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์กเรนเจอส์ ไป 6-1 โดยเขาทำประตูได้ในนาทีที่ 19,25,64 ในฤดูกาล 2011-2012 เขายิงประตูได้ 11 ประตู โดยลงสนาม 48 นัดตั้งแต่ย้ายมาเชลซี ยิงรวม 12 ประตู
เมื่อพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2012-13 เปิดฤดูกาล ตอร์เรสยิงประตูแรกในฤดูกาลนี้ของตัวเองได้ในเกมนัดที่สองที่เชลซีเปิดบ้านเอาชนะเรดดิ้งไปได้ 4-2 และเขายังสามารถยิงได้ต่อเนื่อง ในเกมนัดที่สามที่เชลซีเปิดบ้านพบนิวคาสเซิ่ล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น